เป็นเครื่องมือบริหารภาษีของเจ้าของธุรกิจทึ่ถูกต้องตามกฏหมายและสรรพากรยอมรับ เพียงเพราะมีความรู้ความเข้าใจด้านประมวลรัษฎากรเพิ่มเติม โดย สโลแกนที่ว่า “เป็นการบริหารเงินให้คุ้มค่า เพราะรู้มาตราและกฎหมาย” ผลประโยชน์จะได้รับ เป็นการใช้สิทธิที่ถูกต้องตามประมวลรัษฎากร(มีข้อกฏหมายรองรับ) เป็นช่องทางเลือกใหม่ของการบริหารองค์กร ด้านภาษี ไม่มีผลกระทบต่อการจัดเก็บภาษีของสรรพากร สามารถบันทึกเป็นค่าใช้จ่ายของบริษัทได้ 100% (ไม่ต้องแบ่งเป็นรายงวด) ผลตอบแทนจากกรมธรรม์ ได้รับการยกเว้นภาษี ภาษีของบุคคลธรรมดา สามารถให้นิติบุคคลจ่ายแทนได้ ใบเสร็จค่าเบี้ยประกัน สามารถนำไปหักลดหย่อนภาษีบุคคลธรรมดาได้ กรณีทำโครงการคีย์แมนให้ “พนักงาน”ผู้ประกอบการได้รับประโยชน์ดังนี้ บุคคลากรสำคัญของบริษัทได้รับการดูแล สร้างความรู้สึกเชื่อมั่นให้กับบุคคลากรในองค์กร เกิดความรักและภักดีของบุคคลากรให้กับองค์กร ป้องกันสมองไหลหรือการย้ายงาน ลดค่าใช้จ่ายในการสร้างบุคลลากรใหม่ เช่นค่าฝึกอบรม ลดค่าเสื่อมเวลาในการรอคอยคนใหม่ที่เก่งๆมาบริหาร สร้างความมั่นคงต่อเนื่องของธุรกิจ กรณีทำโครงการคีย์แมนให้ “เจ้าของนิติบุคคล”ผู้ประกอบการได้รับประโยชน์ดังนี้ เป็นวิธีการเดียวที่สรรพากรยินยอมให้เอาเงินในบัญชีบริษัทออกมาใส่บัญชีบุคคลธรรมดาแบบไม่ผิดกฏหมาย เหมือน “อัฐยายซื้อขนมยาย” หรือการย้ายจากกระเป๋าซ้ายไปไว้ในกระเป๋าขวา เป็นการสร้างมูลค่าให้กับเจ้าของธุรกิจ สร้างมูลค่าของผลกำไรเพิ่มในรูปแบบของกรมธรรม์ ไม่ว่าจะเป็นมูลค่ากรมธรรม์ เงินปันผล ต่างๆ สินไหมได้รับการปกป้องตามกฏหมาย เจ้าหนี้ไม่สามารถยึดทรัพย์สินได้ เป็นการเตรียมทุนไว้ใช้ในกิจการเผื่อยามจำเป็นฉุกเฉิน รักษาสภาพคล่องของธุรกิจได้อย่างรวดเร็ว ปกป้องธุรกิจให้เกิดความมั่งคั่ง และให้มั่นคงอย่างสมบูรณ์ เป็นการโอนย้ายความเสี่ยงกรณีสูญเสียบุุคคลสำคัญ สามารถส่งมอบธุรกิจตามเจตนารมณ์ของเจ้าของอย่างแท้จริง เป็นการเตรียมเงินสดไว้ให้ทายาทโอนทรัพย์มรดก สร้างความอบอุ่นใจให้เจ้าของธุรกิจ เมื่อต้องการสร้างมรดกเงินสดเพิ่มให้ทายาทหรือบุคคลในครอบครัวเป็นผู้รับผลประโยชน์จากกรมธรรม์ เจ้าของกิจการควรตั้งเงินเดือนให้ตัวเองหรือไม่ อย่างไร