เป็นเครื่องมือบริหารภาษีของเจ้าของธุรกิจทึ่ถูกต้องตามกฏหมายและสรรพากรยอมรับ เพียงเพราะมีความรู้ความเข้าใจด้านประมวลรัษฎากรเพิ่มเติม โดย สโลแกนที่ว่า “เป็นการบริหารเงินให้คุ้มค่า เพราะรู้มาตราและกฎหมาย”

ผลประโยชน์จะได้รับ

  • เป็นการใช้สิทธิที่ถูกต้องตามประมวลรัษฎากร(มีข้อกฏหมายรองรับ)
  • เป็นช่องทางเลือกใหม่ของการบริหารองค์กร ด้านภาษี
  • ไม่มีผลกระทบต่อการจัดเก็บภาษีของสรรพากร
  • สามารถบันทึกเป็นค่าใช้จ่ายของบริษัทได้ 100% (ไม่ต้องแบ่งเป็นรายงวด)
  • ผลตอบแทนจากกรมธรรม์ ได้รับการยกเว้นภาษี
  • ภาษีของบุคคลธรรมดา สามารถให้นิติบุคคลจ่ายแทนได้
  • ใบเสร็จค่าเบี้ยประกัน สามารถนำไปหักลดหย่อนภาษีบุคคลธรรมดาได้

กรณีทำโครงการคีย์แมนให้ “พนักงาน”ผู้ประกอบการได้รับประโยชน์ดังนี้

  • บุคคลากรสำคัญของบริษัทได้รับการดูแล
  • สร้างความรู้สึกเชื่อมั่นให้กับบุคคลากรในองค์กร
  • เกิดความรักและภักดีของบุคคลากรให้กับองค์กร
  • ป้องกันสมองไหลหรือการย้ายงาน
  • ลดค่าใช้จ่ายในการสร้างบุคลลากรใหม่ เช่นค่าฝึกอบรม ลดค่าเสื่อมเวลาในการรอคอยคนใหม่ที่เก่งๆมาบริหาร
  • สร้างความมั่นคงต่อเนื่องของธุรกิจ

กรณีทำโครงการคีย์แมนให้ “เจ้าของนิติบุคคล”ผู้ประกอบการได้รับประโยชน์ดังนี้

  • เป็นวิธีการเดียวที่สรรพากรยินยอมให้เอาเงินในบัญชีบริษัทออกมาใส่บัญชีบุคคลธรรมดาแบบไม่ผิดกฏหมาย เหมือน “อัฐยายซื้อขนมยาย” หรือการย้ายจากกระเป๋าซ้ายไปไว้ในกระเป๋าขวา
  • เป็นการสร้างมูลค่าให้กับเจ้าของธุรกิจ
  • สร้างมูลค่าของผลกำไรเพิ่มในรูปแบบของกรมธรรม์ ไม่ว่าจะเป็นมูลค่ากรมธรรม์ เงินปันผล ต่างๆ
  • สินไหมได้รับการปกป้องตามกฏหมาย เจ้าหนี้ไม่สามารถยึดทรัพย์สินได้
  • เป็นการเตรียมทุนไว้ใช้ในกิจการเผื่อยามจำเป็นฉุกเฉิน รักษาสภาพคล่องของธุรกิจได้อย่างรวดเร็ว
  • ปกป้องธุรกิจให้เกิดความมั่งคั่ง และให้มั่นคงอย่างสมบูรณ์ เป็นการโอนย้ายความเสี่ยงกรณีสูญเสียบุุคคลสำคัญ
  • สามารถส่งมอบธุรกิจตามเจตนารมณ์ของเจ้าของอย่างแท้จริง
  • เป็นการเตรียมเงินสดไว้ให้ทายาทโอนทรัพย์มรดก
  • สร้างความอบอุ่นใจให้เจ้าของธุรกิจ เมื่อต้องการสร้างมรดกเงินสดเพิ่มให้ทายาทหรือบุคคลในครอบครัวเป็นผู้รับผลประโยชน์จากกรมธรรม์

เจ้าของกิจการควรตั้งเงินเดือนให้ตัวเองหรือไม่ อย่างไร